Category ข่าวกีฬา

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เชิญ 4 ไปชมเกม

"โรนัลโด้" เชิญ 4 แข้ง "แมนยู" ชมเกมที่ซาอุฯ

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เชิญ 4 นักฟุตบอล อดีตเพื่อนเก่าที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มาชมเกมที่ตัวเอง ลงเล่นที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

โรนัลโด้แยกทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ ไปเข้าแคมป์ ซ้อม กับทีมชาติ โปรตุเกส เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ ลงเล่น ฟุตบอลโลก 2022
ทำให้ไม่ได้ มีโอกาสร่ำลา เพื่อนร่วมทีม “ปีศาจแดง” เลยแม้แต่คนเดียว

โดย รายงานจาก สปอร์ตไบเบิล กล่าวว่า แม้ โรนัลโด้จะ ออกจากกลุ่ม วอทส์แอพ ของนักเตะ “ปีศาจแดง” ไปแล้ว
แต่เขา ยังคงติดต่อ กับเพื่อนสนิท บางคน กับ มีการเชิญ 4 นักฟุตบอลอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์, บรูโน่ แฟร์นานเดส, กาเซมีโร่ แล้วก็ ราฟาแอล วาราน

ไปชมเกม ที่ตนเอง ลงเล่นให้กับ อัล นาสเซอร์ ในลีก ซาอุดิอาระเบีย หรือจะไปไปเยี่ยม คฤหาสน์หลังใหม่ ที่กำลังก่อสร้างที่บ้านเกิด ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ช่วงวันหยุดก็ได้

ทั้งนี้ รายงานเพิ่มเติมเปิดเผยว่า นักฟุตบอล ดาวรุ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด บางคนยังให้ ความเคารพโรนัลโด้ อยู่ และรู้สึกเสียใจ ที่ทุกอย่าง จบลงแบบนี้
ด้วยเหตุว่าพวกเขา ยังไม่ได้กล่าว คำอำลา ที่เหมาะสม กับดาวเตะรุ่นพี่เลย

คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ผู้จัดการทีมฟุตบอล อัล นาสเซอร์ ชี้ โรนัลโด้ จะกลับไปยุโรป ก่อนแขวนสตั๊ด

รูดี้ การ์เซีย ผู้จัดการทีมฟุตบอล อัล นาสเซอร์ เปิดเปิดเผยว่า คริสเตีย โรนัลโด้พร้อม จะกลับไปเล่น ที่ยุโรปในอนาคต ก่อนแขวนสตั๊ด

นายใหญ่ ยอดทีมจาก ลีกซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า กัปตันทีมชาติ โปรตุเกส ถือว่าเข้ามาช่วยทีม ในการทำลาย เกมรุกฝั่งตรงข้าม พร้อมมองว่าแข้งวัย 37 ปี

เป็นหนึ่ง ในผู้เล่นที่ดี ที่สุดในโลก และก็จะไม่จบ การเล่นในตะวันออกกลาง อย่างแน่นอน

“คริสเตียโน่ โรนัลโด้เป็น กำลังเสริม ที่ดี ด้วยเหตุว่าเขานั้น ช่วยในการ ทะลวงแนวรับได้”

“เขาคือหนึ่ง ในนักเตะ ที่เก่ง ที่สุดในโลก เขาจะไม่หยุด เส้นทางอาชีพกับ อัล นาสเซอร์ เขาจะกลับไป ยุโรป”

โรนัลโด้
เจอมากับตัว “กองหลังลีกซาอุฯ” เปิดใจหลัง เผชิญหน้า “โรนัลโด” ชี้สิ่งที่เปลี่ยนไป

มาร์กแซล ทิสเซร็องด์ กองหลัง ชาวดีอาร์คองโก ของ อัล อิตติฟาค สโมสรในลีก ซาอุดีอาระเบีย ชื่นชม คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าของ อัล นาสเซอร์

ว่าดูแล ตัวเองได้ดี อยู่ในสภาพ ที่ฟิตและ สมบูรณ์ แม้ความจี๊ดจ๊าด จะลดลงไปตามอายุ หลังได้ดวลแข้งกันในเกมที่ อัล อิตติฟาต แพ้ อัล นาสเซอร์ 0-1

และเชื่อว่า โรนัลโด้จะเข้ามา ช่วยยกระดับ ลีกซาอุดีอาระเบีย ได้อย่างแน่นอน

ทิสเซร็องด์ กล่าวว่า “เท่าที่ผมเห็น เขายังฟิต และดูโอเคอยู่นะ สังเกตุได้ว่าเขาดูแลตัวเองดีมาก แต่แน่นอน ว่าจะให้เขาวิ่งเหมือนอายุ 20 ก็คงไม่ใช่ พวกเรา จะไม่ขอให้เขาเลี้ยง บอลผ่าน 5 คน เหมือนที่เขา ทำได้เมื่อ 2-3 ปีก่อน หรือทำทุก อย่างด้วยตัวเอง ตอนนี้เขา ต้องการเพื่อนร่วมทีม มากขึ้น เขาเล่นด้วย สมองมากขึ้น การเคลื่อนที่ ของและจังหวะต่าง ๆ เป็นไปตามกาลเวลา ผมคิดว่า เขาจะปรับตัว ได้อย่างรวดเร็วกับลีกนี้”

“การมาถึงของ โรนัลโดช่วยกระตุ้นลีกนี้ เพราะใครๆ ก็พากันพูดถึงเรื่องที่เขาย้ายมา และมันยอดเยี่ยมมากที่ทีมของเราได้เผชิญหน้าในนัดแรกของเขากับลีกนี้อย่างเป็นทางการ”

วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง 2023

5 สตาร์กีฬาร่วมชาเลนจ์ วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง 2023

กกท.-กองทุนพัฒนาการ กีฬาแห่งชาติ ดึง 5 สตาร์นักกีฬาร่วมชาเลนจ์สุดพิเศษ ในกิจกรรมเดิน-วิ่ง รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง “Sports Day Run Thailand Series 2023” นำทัพโดย “บัวขาว-ลีซอ- ปิยะนุช-ตะวัน รวมทั้งเอิร์น นางฟ้านักวิ่ง”

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แล้วก็กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จัดงานแถลงข่าวสารเปิดโครงการเดิน-วิ่ง รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง “Sports Day Run Thailand Series 2023” ดึง 5 นักกีฬาและอินฟลูเอนเซอร์ขวัญใจชาวไทย

ให้แฟนๆร่วมชาเลนจ์ 2 กิจกรรมสุดพิเศษ ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ บริเวณด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ ชันษา การกีฬาแห่งประเทศไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและก็กีฬา กล่าวว่า กิจกรรมเดิน-วิ่ง รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง “Sports Day Run Thailand Series 2023” เป็นการเปิดให้แฟนๆและประชาชนทั่วไปได้ออกกำลังกายร่วมกับ เหล่าบรรดานักกีฬาที่โด่งดัง

แล้วก็เป็นขวัญใจของคนไทย โดยมีอีกทั้งรูปแบบ Virtual Walk-Run เดิน-วิ่ง สะสมระยะทาง ที่ไหนก็ได้ และก็กิจกรรมเดิน-วิ่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร ที่สวนสาธารณะต่าง ๆ

ซึ่งการมีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงด้านการออกกำลังกายมาร่วมกิจกรรมด้วย จะช่วยเพิ่มกระแสความตื่นตัว พร้อมช่วยจูงใจแล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชน หันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและก็ต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจของกระทรวง ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ ในการส่งเสริมแล้วก็ช่วยเหลือกิจกรรมทางการกีฬาของชาติ ตามยุทธศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย

​ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย

​ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า

การกีฬาแห่งประเทศไทย เล็งเห็นความสำคัญของการเล่นกีฬาและออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน ก็เลยได้จัดกิจกรรมออกกำลังกายรูปแบบเดิน-วิ่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เข้าถึงได้ง่าย ทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าร่วมได้ ในชื่อโครงการ “รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง” พร้อมเชิญนักกีฬาขวัญใจชาวไทยและก็อินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำระดับประเทศมาร่วมนำขบวน นำโดย บัวขาว บัญชาก้อนเมฆ, ปิยะนุช แป้นน้อย, “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย, “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม รวมทั้ง “เอิร์น” จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและก็สร้างกระแส ตื่นตัวให้คนไทยหันมาออกกำลังกายอย่างเป็นประจำรวมทั้งสร้างความสนใจในการเล่นกีฬาชนิดอื่นต่อ ๆ ไป

​ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีพันธกิจสำคัญในการส่งเสริม ส่งเสริม และก็สร้างโอกาสทางการกีฬาให้เกิดขึ้นอย่างทั่วถึงแล้วก็เท่าเทียม ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาแล้วก็เสริมสร้างความสามารถทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนตอบสนองพันธกิจตามยุทธศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย

ด้านการพัฒนาการมีส่วนร่วมในกิจกรรมแล้วก็การบริการของการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็เลยได้ร่วมเกื้อหนุนการจัดกิจกรรมในคราวนี้เพื่อส่งเสริมการเล่นกีฬาในชีวิตประจำวันอย่างตลอด พร้อมสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนเข้าถึงพื้นที่เพื่อการออกกำลังกายแล้วก็พื้นที่สาธารณะมากยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมนี้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมรับของที่ระลึกแล้วก็เหรียญรางวัลเมื่อเข้าร่วมกิจกรรม ด้วยเหมือนกัน

Sports Day Run Thailand Series 2023

สำหรับ กิจกรรมเดิน-วิ่ง รวมพลคนกีฬา วิ่งวิถีใหม่ ใจกลางเมือง “Sports Day Run Thailand Series 2023”

เปิดให้ประชาชนได้ร่วมชาเลนจ์ไปกับทัพนักกีฬาและก็อินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำระดับประเทศจาก 5 ชนิดกีฬา นำโดย บัวขาว บัญชาเมฆ (BOXING STAR), ปิยะนุช แป้นน้อย (VOLLEYBALL STAR ), “เอิร์น” จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ ผู้ครอบครองสมญานามนางฟ้านักวิ่ง (RUNNING STAR), “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย (FOOTBALL STAR) และ “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม (BADMINTON STAR)

​ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมมี 2 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.กิจกรรม Virtual Walk-Run เดิน-วิ่ง สะสมระยะทางที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้ จำนวน 5 ชาเลนจ์ (30 กิโลเมตร ต่อ 1 ชาเลนจ์) แล้วก็ 2.กิจกรรมเดิน-วิ่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร จำนวน 5 ครั้ง คือ VOLLEYBALL DAY วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ณ การกีฬาแห่งประเทศไทย, BOXING DAY วันที่ 4 มีนาคม 2566 ณ สวนห้ากิติ, RUNNING DAY วันที่ 8 เดือนเมษายน 2566 ณ สวนหลวงร.9, FOOTBALL DAY วันที่ 6 เดือนพฤษภาคม 2566 ณ สวนเบญจกิติ และ BADMINTON DAY วันที่ 3 มิถุนายน 2566 ณ สวนหลวง ร.9

เอฟเวอร์ตันประกาศขายทีม

บิเอลซ่า-แฟรงค์ ปัดคุมเอฟเวอร์ตัน

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า และ โธมัส แฟรงค์ ไม่ยอมรับไม่สนใจที่จะเข้ามารับงานคุมทีม เอฟเวอร์ตัน แทนที่ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่พึ่งจะถูกปลดออกไป

ทั้งยัง บิเอลซ่า และก็ แฟรงค์ อยู่ในลิสต์รายนามที่มีโอกาส เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีม “ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในรายของ บิเอลซ่า

ที่มีแถลงการณ์ว่า ฟาร์ฮัด โมชิรี่ เจ้าของทีมเอฟเวอร์ตัน วางให้กุนซือชาวอาร์เจนไตน์เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่ต้องการได้ตัวเข้ามาคุมทีม หลังประทับใจกับผลงานในการพา ลีดส์ เลื่อนชั้นกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีก และจบอันดับ 9 ในซีซั่น 2021

แต่ล่าสุด เดอะ ไทม์ส รายงานว่า บิเอลซ่า ได้ไม่ยอมรับข้อเสนอของเอฟเวอร์ตันแล้ว เพราะเหตุว่ากังวลค่อนข้างมากกับการเข้ามา รับตำแหน่งที่ยากลำบากนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสร้างทีมชุดเดี๋ยวนี้ให้แข็งแกร่งขึ้น อีกจุดคือเอฟเวอร์ตัน กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะว่าบิเอลซ่า ต้องการเปลี่ยนสตาฟฟ์ยกชุด

ส่วนอีกรายอย่าง โธมัส แฟรงค์ ก็มีรายงานจาก ไวทัลเอฟเวอร์ตัน ว่า ที่ปรึกษาคนตอนนี้ของ เบรนท์ฟอร์ด ได้บอกปัดข้อเสนอของ เอฟเวอร์ตัน แล้วเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุว่ากำลังสนุก กับการทำงานที่ เบรนท์ฟอร์ด ที่ตอนนี้ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมที่สุดรั้งอยู่ในอันดับ 8 ของพรีเมียร์ลีก

แลมพาร์ด

ไม่รอช้า เต็ง 1 ผู้จัดการทีมฟุตบอลใหม่ “เอฟเวอร์ตัน” คุยผู้ครอบครองทีมแล้ว-รอถก 1 ข้อก่อนแทน “แลมพาร์ด”

“ดีกรีไม่ธรรมดา” เต็ง 1 กุนซือใหม่เอฟเวอร์ตัน คุยกับเจ้าของทีมแล้ว เหลือสนทนา 1 ข้อจำกัดสำคัญ ก่อนรับงานพาทีมหนีตายพรีเมียร์ลีก

วันที่ 24 มกราคม 2566 เดลี่เมล สื่อดังเมืองผู้ดีแถลงการณ์ว่าเอฟเวอร์ตัน ได้เลือก มาร์เซโล บิเอลซา ผู้จัดการทีมฟุตบอลจอมเก๋า ชาวอาร์เจนตินา เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ที่จะมารับงานต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เพิ่งจะโดนปลดออกจากตำแหน่ง เพื่อพาทีมลุ้นหนีตกชั้น จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากร่วงไปอยู่อันดับ 19 มีเพียงแค่ 15 คะแนน จาก 20 นัด ห่างจากโซนปลอดภัย 2 แต้ม

มาร์เซโล บิเอลซา วัย 67 ปี กำลังไม่มีงานทำ หลังแยกทางกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ซึ่งศูนย์ข่าวบอกว่าได้เข้ามาคุยกับ ฟาร์ฮัด โมชิรี เจ้าของสโมสรเอฟเวอร์ตันแล้ว โดยกุนซือจอมเก๋าชาวอาร์เจนตินาต้องการรู้ถึงแผนงานเสริมทัพเพื่อลุ้นหนีตกชั้น ก่อนที่ตลาดนักเตะฤดูหนาวจะปิดตัวลงในวันที่ 31 มกราคมนี้ ก่อนตัดสินใจรับงาน

สำหรับ มาร์เซโล บิเอลซา ถือเป็นผู้จัดการทีมที่ได้รับการยอมรับเรื่องความสามารถที่เน้นการเล่นเกมรุกแล้วก็ความดุดัน เคยพาทีมชาติอาร์เจนตินาไปลุยฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2 สมัย ในปี 1998 รวมทั้งปี 2002 รวมทั้งคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2004 จากนั้นก็นำ แอธเลติก บิลเบา เข้ารอบชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ รวมทั้ง ยูโรปาลีก ในฤดูกาล 2011-2012 ก่อนพา ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์แชมเปียนชิพ ฤดูกาล 2019-2020 เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 16 ปีได้สำเร็จ

ดังนี้ มาร์เซโล บิเอลซา เป็น 1 ในตัวเต็งที่จะมารับงานกุนซือเอฟเวอร์ตันคนใหม่แทน แฟรงค์ แลมพาร์ด ร่วมกับ ฌอน ไดช์, เวย์น รูนีย์, นูโน เอสปิริโต ซานโต รวมทั้ง ดันแคน เฟอร์กูสัน.

บิเอลซา

500 ล้านปอนด์! เอฟเวอร์ตันประกาศขายทีมหลังปลดแลมพาร์ด

ผู้ครอบครองทีมท็อฟฟี้สีน้ำเงินเตรียมนำทีมเข้าสู่ตลาด เพื่อหารายได้มากกว่า 500 ล้านปอนด์ มาเผื่อแผ่ส่วนที่หายไปจากการสร้างสนามใหม่ และก็เลือกสรรผู้จัดการทีม

ฟาร์ฮัด โมชิรี เจ้าของทีมเอฟเวอร์ตัน ออกมาประกาศขายทีม หลังจากที่เพิ่งปลดแฟรงค์ แลมพาร์ด พ้นจากตำแหน่งได้เพียงแค่ 24 ชั่วโมง ตามรายงานจาก The Guardian

ทีมท็อฟฟี้สีน้ำเงิน กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มย่ำแย่ หลังจากที่มีเพียงแค่ 15 แต้มจาก 20 นัด โดยชนะไป 3 นัด เสมอ 6 รวมทั้งแพ้ถึง 11 นัด นำมาซึ่งการทำให้ทีมต้องปลดแลมพาร์ดออกจากตำแหน่งกุนซือ

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้พวกเขาต้องมองหาเฮดโค้ชคนใหม่เข้ามาคุมทีม โดยมาร์เซโล บิเอลซา และชอน ไดค์ คือสองตัวเต็งที่มีชื่อปรากฏตามหน้าสื่อเวลานี้

เอฟเวอร์ตันประกาศขายทีม

เอฟเวอร์ตัน เปิดการสนทนาดึง บิเอลซา คุมแทน แลมพาร์ด

สำนักข่าวเดลี เมล์ กล่าวว่าเอฟเวอร์ตัน กำลังทำการสนทนากับ มาร์เซโล บิเอลซา ให้เข้ามานั่งแท่นผู้จัดการทีมคนใหม่ของพวกเขา
เอฟเวอร์ตัน พึ่งจะสั่งปลด แฟรงก์ แลมพาร์ด พ้นจากตำแหน่งกุนซือ ไปหมาด ๆ หลังจากทีมรั้งอันดับ 19 ของตาราง แล้วก็มีความเสี่ยงที่จะตกชั้น

และก็ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า พวกเขากำลัง ทำการสนทนากับ บิเอลซา แล้ว แต่ทางกุนซือชาวอาร์เจนไตน์ต้องการจะทราบเรื่องแผนการเสริมกองทัพของเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะรับงานดังกล่าวกับทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินหรือไม่

สำหรับบิเอลซา ก่อนหน้านี้สร้างผลงานสำคัญ คือ การพาลีดส์ ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แต่สุดท้ายก็แยกทางกันไปแล้ว

บอลมันส์ จนลืมหายใจ อาร์เซนอล แมนฯยูฯ

บอลมันส์ จนลืมหายใจ คนแพ้หมดสิทธิ์แก้ตัว

กล่าวได้ว่าเกมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ 5 ดาว น้ำจิ้มข้นคลั่กระหว่าง อาร์เซนอล และก็ แมนฯยูฯ แทบจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งจนกระทั่งกระทั่งเกิดประตูชัยสนามแตกในนาที 90

ก่อนหน้านี้การคัมแบ็คทวงประตูคืนฝั่งละหนของทั้งยัง 2 ทีมอย่างรวดเร็วในเวลาใกล้เคียงกัน (6-7 นาที) หากนับถึงเพียงแค่ที่ตรงนี้ผลเสมอให้ได้ไม่น่าเกลียด

ด้วยความเป็นเจ้าบ้าน/ทีมเยือน ในช่วงเวลา 10-20 นาทีสุดท้ายอาร์เซนอล โหมหนักขึ้น ในขณะที่ ยูไนเต็ด ดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจนถึงแนวรับแกว่งอย่างเห็นได้ชัดเจน

การถอด แอนโทนี่ และก็อัด เฟร็ด ยัดกลางรับอีกตัวตั้งแต่นาที 71 คือการบอกเป็นนัย ๆ ของ เอริค เทน ฮาก ว่าขอ 1 แต้มเป็นอย่างน้อย

ภารกิจที่ว่านี้แทบถึงฝั่งแต่แนวรับของ ยูไนเต็ด ถูกขยี้ถี่จนถึงราวกับบอลรอโดนแถมประตูของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ดันมาโผล่แบบไม่เหลือเวลาให้ “ปีศาจแดง” ตามแก้ตัวใดๆก็ตามอีกแล้ว

ความลื่นไหลของเกม, การต่อสู้ที่ตื่นเต้นเร้าใจ สะกดให้เราลุกไปไหนไม่ได้ทำให้เวลาผ่านไปเร็วโคตร ๆ

“ปืนใหญ่” ที่จัดเกมบุกตาม แบบฉบับเจ้าบ้านอยู่ร่วม ๆ 10 กว่านาทีแต่โชคร้ายตรงที่ว่าความผิดพลาด ครั้งแรกกับการเสียบอลในแดนตนเองถูกลงโทษทันที

มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ตอนนี้ฟอร์มน่ากลัวสุด ๆ ใช้โอกาสแรกของตัวเองและก็ของฝี่งทีมเยือนประเดิม ลูกแรกจากความเยือกเย็นแตะดาก โธมัส ปาเตย์ (ที่วันนี้ผมว่าเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน) ก่อนเลือกยิงมุมอดอยาก แรมเดลส์ กว่าจะรู้สึกตัวก็ช้าไปแล้ว

การขาด คาเซมิโร่ ของ ยูไนเต็ด เห็นผลทันตา แดนกลางยวบ การสกรีนเกมรุกที่ตัวเสียบแทนอย่าง แม็คโทมิเนย์ ผลลัพท์ออกมาคนละตีน

กระทบไปถึง เอริคเซ่น ที่ปกติแกเป็นพวกสร้างสรรค์เกมต้องทำงาน “เสริม” ช่วยเกมรับจนเกือบจะไม่เหลือแรง

ผมนี่งงงวย เลยคือ แม็คโทฯ แกยืนมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายซึ่งตำแหน่งนี้แกต้องคอยซ้อน ลุค ชอว์ เพื่อต่อกรกับ ซาก้า ที่จ้องมองเลี้ยงตัดเข้าในตลอดทั้งเกม

อาร์เซนอล

แต่จังหวะที่เสียประตูปล่อยให้คนอายุ 30 ปีอย่าง เอริคเซ่น มาไล่กวดซะงั้น (แต่ตัวเองไปยืนในเขตโทษ)

ไม่ใช่แค่ลูกนี้ครับตอนช่วงนาที 70 ที ซาก้า กดสูตรเดิมก็ยังเป็น เอริคเซ่น คนเดิมพยายามช่วยบล็อกแต่ก็ช้าไป 1 ก้าว (อีกแล้ว) โชคดีบอลไถลโคนเสา

เข้าบอลดุกว่า หนุ่มกว่าแต่ไหงไปยืนดู รักษาพื้นที่ในเขตโทษซึ่งมีแนวรับคนอื่นๆประจำการอยู่แล้ว

ความอันตรายรวมทั้งจมูกไวในเขตโทษของ เอ็นเคเทียห์ ถือเป็นอาวุธลับของ “ปืนใหญ่” ในฤดูกาลนี้จริง ๆ ครับ

เนื่องจากว่ามีการเปิดสถิติตลอด 13 เกมที่ลงตัวจริงใน เอมิเรสต์ สเตเดียม “พี่เอ็นข้อ” ซัดไปถึง 12 ประตู ตัวเลขโคตรโหด!!

การเข้าหาบอลตัดหน้า “ไอ้แมงมุม”, การอยู่ถูกที่ถูกเวลา ในระยะเผาขนรอบแรก (ติดเซฟ เด เกอา) และก็ซัดประตูชัยนาที 90 ล้วนแล้วแต่เป็นสัญชาตญาณดาวยิงล้วน ๆ

ถ้าเกิดเป็นคนรุ่นเก่ายุค 90 จะนึกถึง อลัน สมิธ กองหน้าร่างโย่งที่ไม่ว่าบอลโด่งบอลเลียดถึงเวลาเขาจะมาตามนัดเอง

ครับสำหรับผู้แพ้ “ปีศาจแดง” การโดนยิงช่วงเวลาอื่น “ปวด” ไม่เท่าโดนช่วงนาทีสุดท้าย อารมณ์ประมาณไม่เหลือเวลาให้ระบายโกรธแค้น เกมจบแบบมีเงื่อนในใจ

ยิ่งมองถึงฟอร์มและก็การสู้กับ “จ่าฝูง” ได้ไม่เป็นรอง การตาม อาร์เซนอล 8 แต้มกับตอนนี้ 11 แต้มคงต้องใช้วลา heal กันอีกพักนึง

แต่ในมุมมองผม ยูไนเต็ด วันนี้ต่างจากซีซั่นก่อนแล้วก็ต้นซีซั่นจริง ๆ การเล่นรวมทั้งเสียประตูแบบเด็กอนุบาล ที่แฟนบอลทีมอื่นเอามาล้อรวมฮิตในยูทูปมันไม่มีอีกแล้ว

ตามหลักแล้วก้าวแรกของทีม ที่จะขึ้นมาลุ้นแชมป์บนหัวตารางอย่างสุดกำลังต้องเริ่มจากสัมผัสถึงแรงกดดันรวมทั้งต่อกรต่อสู้เกมอันเข้มข้นของทีมระดับ top ให้ได้ก่อน

ทั้งยัง 2 นัดไม่ว่าเกมที่พบอาร์เซนอล หรือ แมนฯซิตี้ เด็ก ๆ ของ เอริค เทน ฮาก พิสูจน์ให้มองเห็นแล้วว่า space ความห่างมันอยู่เพียงแค่ปลายนิ้วจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ก่อน ETH จะมาทรงบอลคนละตีนกันเลยนะครับ

ผมเชื่อเหลือเกินว่าตลาดซัมเมอร์หน้าจะผลักให้ “ปีศาจแดง” ก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์สู้กับ ซิตี้ และอาร์เซนอล สุดกำลังแน่นอน

สำหรับ “ปืนใหญ่” การเก็บชัยครั้งแล้วครั้งเล่า 16 จาก 19 เกมซึ่งแตะต้องครึ่งซีซั่นเป็นตัวเลขที่ไม่มีวัน โกหกใคร

การคว้า เลอันโดร ทรอสซาร์ ทั้งๆที่ “ปืนใหญ่” ยิงประตูมากที่สุดในลีกรองจาก ซิตี้ เป็นการประกาศตัวต้องแชมป์เท่านั้นของ มิเกล อาร์เตต้า บิ๊กบอสหน้าหยก

5 แต้มเหนืออันดับ 2 พร้อม 1 เกมในมือถือว่าไม่ได้เยอะแยะอะไรเลยเมื่อพวกเรากำลังพูดถึง แมนฯซิตี้ ของ เป๊ป กวาดิโอล่า

ตัวแปรสำคัญคืออีกทั้ง 2 ทีมยังไม่ได้เจอกันเลยในฤดูกาลนี้ 16 เดือนกุมภาพันธ์ ที่ เอมิเรสต์ รวมทั้ง 27 ม.ย. ที่ เอติฮัด แน่นอนไม่ใช่ตัวตัดสินแชมป์ที่ตามที่เป็นจริง

ความบ่อยในการดูดแต้มจากบรรดาทีมอื่น ๆ ต่างหากคือปัจจัยคว้าแชมป์ซึ่ง so far ตอนนี้ อาร์เซนอล นับว่ายังทำได้ยอดเยี่ยมกว่า ซิตี้ ที่ยังมีเส้นกราฟที่สวิงไปมาบางส่วน

หนทาง ยังอีกยาวไกลอีกครึ่งซีซั่นหรือ 4 เดือนเต็มก็จริงแต่ต้องกล่าวว่าตอนนี้ “ปืนใหญ่” มาดีและดูดีจริง ๆ ครับ…

แมนฯยูฯ
เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เป็นนักเตะ อาร์เซนอล คนที่ 2

ที่ยิงประตูนาที 90 ใส่ แมนฯยูไนเต็ด (ในพรีเมียร์ลีก) นับตั้งแต่ เธียร์รี่ อองรี เคยทำเอาไว้ในเดือนมกราคม 2007

เอ็นเคเทียห์ เป็นแข้ง “ปืนใหญ่” คนแรกที่ยิง 2 ประตูใส่ แมนฯยูฯ ในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ อเล็กซิส ซานเชส เคยทำไว้เมื่อเดือนตุลามคม 2015

ยิ่งกว่านั้น “พี่เอ็ดดี้” ทำสถิติสุดร้อนแรงยิง 18 ประตูจากการออก สตาร์ตเป็นตัวจริง 26 เกมในทุกรายการรวมถึง 12 ประตูจากการลงตัวจริง 13 เกมที่ เอมิเรสต์ สเตเดียม อีกด้วย

อาร์เซนอล สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของ แมนฯยูฯ เกมนี้มากถึง 63 ครั้ง นับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในเกมเดียวของซีซั่นนี้

“ปืนใหญ่” ทำสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 13 (ชนะ 11 เสมอ 2) เป็นตัวเลขที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 (14 เกม)

บูกาโย่ ซาก้า เป็นนักเตะ “ปืนใหญ่” คนที่ 3 ที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกในการเจอกับ “ปีศาจแดง” 3 เกมติดต่อกันโดย 2 คนก่อนหน้านี้ที่ทำได้คือ เฟร็ดดี้ ยุงเบิร์ก (1998-2000) และก็ เธียร์รี่ อองรี (2000-2001)

เกมนี้นับว่าเป็นหนที่ 3 เท่านั้นที่อาร์เซนอล เปิดบ้านรับมือกับ แมนฯยูฯ ในขณะที่รั้งตำแหน่ง “จ่าฝูง” โดยอีกทั้ง 3 เกมพวกเขาไม่แพ้เลย (ชนะเกมนี้ 3-2,เสมอ 1-1 ปี 2004 และ 2-2 ปี 2007)

มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิง 9 ประตูในทุกรายการนับตั้งแต่จบบอลโลก นับว่าเป็นนักฟุตบอลที่ยิงมากกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปเลยทีเดียว

ลิซานโดร มาติเนซ เป็นนักฟุตบอล อาร์เจนติน่า คนที่ 7 ที่ทำประตูให้ แมนฯยูฯ จัดว่ามากกว่าทุกๆสโมสรไปแล้ว (คาร์ลอส เตเวซ, ฮวน เซบาสเตียน เวรอน, อังเคล ดิ มาเรีย, มาร์กอส โรโฮ, กาเบรียล ไฮนเซ่ และก็ อเลฮานโดร การ์นาโช่)

แมนฯยูฯ ไม่เจอกับชัยชนะเลยเมื่อต้องบุกมาเยือนอาร์เซนอล 5 เกมทุกรายการโดยแพ้ถึง 4 และเสียอย่างน้อย 2 ประตูในแต่ละความปราชัย (เสมออีก 1) เป็นสถิติไม่มีชัยที่ เอมิเรสต์ ที่ยาวนานที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ตุลาคม 2000 – มีนาคม 2004 (5 เกม)

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 25 ประตูจากการอ้าเท้ายิงเพียง 74 หนเท่านั้นโดยดาวซัลโวสูงสุดของ แมนฯซิตี้ อย่าง กุน อเกวโร่ กว่าจะยิงได้ 25 ประตูต้องใช้โอกาส 150 ครั้งหรือมากกว่า 2 เท่า

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กดแฮทริคที่ 4 จากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีกแค่เพียง 19 นัดเท่านั้น เป็นการทำลายสถิติของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ทำ 4 แฮทริคจากการลงเล่น 65 นัดอย่างง่ายดาย

19 – เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
65 – รุด ฟาน นิสเตลรอย
81 – หลุยส์ ซัวเรซ
86 – อลัน เชียร์เรอร์
89 – ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

มีเพียงแค่ อลัน เชียร์เรอร์ คนเดียวเท่านั้น (5 หนในซีซั่น 1995-96) ที่ทำแฮทริคในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลเดียวมากกว่า เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (4 หน 2023-24)

ไม่มีนักเตะคนไหนยิงประตูในบ้านในฤดูกาลเดียวให้ แมนฯซิตี้ มากกว่า เออร์ลิง ฮาลันด์ อีกแล้ว (16 ประตูจาก 11 เกมที่ เอติฮัด) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เท่า กุน อเกวโร่ (2011-12)

เควิน เดอ บรอยน์ จัดไปแล้ว 16 แอสซิสต์รวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ซึ่งมากกว่านักเตะทุกคนใน 5 ลีกใหญ่ ๆ โดย 7 จาก 16 เป็นประตูของ ฮาลันด์

5 ข้อ แมนยู โดน พาเลซ

เว็กฮอร์สต์ ไหวแน่นะวิ, ผีเสียสถิติจนได้ – 5 ข้อ แมนยู โดน พาเลซ ทำแสบแชร์แต้ม

ในที่สุด แมนยู ก็ออกอาการ สะดุดเข้าให้ ซะแล้วเมื่อบุกไปโดน คริสตัล พาเลซ แบ่งแต้ม 1-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เซลเฮิร์สพาร์ค เมื่อวันพุธที่ 18 ม.ค. ซึ่งถือได้ว่าทำให้เกิดผลเสีย อย่างแรงต่อโอกาส ได้ลุ้นคว้าแชมป์ลีก

แบบนี้เพราะนอกเหนือจากการที่จะพลาดการเก็บสามแต้มเต็มแล้ว กาเซมีโร่ กองกลางทีมชาติ บราซิล ยังหมดสิทธิ์ ลงเล่นเกมหน้ากับทีม ปืนใหญ่ ด้วยหลังสะสมใบเหลือง เพิ่มซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า นับเป็นข่าวร้ายของ ผีแดง รวมทั้งเป็นข่าวดีของทีมจ่าฝูง

คริสตัล พาเลซ

1.เจ้าถิ่น แมนยู หมุนทีมสี่ตำแหน่ง

ปาทริค วิเอร่า ที่ปรึกษาทีม คริสตัล พาเลซ จัดกองทัพจัดการ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการเปลี่ยนโผ ตัวจริงสี่รายจากเกมลีก ที่บุกไปพ่าย เชลซี 1-0

ในจำนวนนี้ คริส ริชาร์ดส์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ สหรัฐฯ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกม พรีเมียร์ลีก นัดแรกเสียบแทน โยอาคิม อันเดอร์สัน ที่บาดเจ็บ

นอกเหนือจากนั้นอีกสามรายได้แก่ วิลล์ ฮิวจ์ส กองกลางที่ได้ลงเล่น เป็นตัวจริงในลีกซีซั่นนี้เกมแรก , อ็อดชอนน์ เอดูอาร์ และก็ ฌอง ฟิลลิปป์ มาเตต้า ที่แทรก เอเบเรชี่ เอเซ่ , จอร์แดน อายิว แล้วก็ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ลงไปนั่งเป็นตัวสำรอง

เวาท์ เว็กฮอร์สต์

2. เว็กฮอร์สต์ ออกสตาร์ต , แมนยู ปรับกองทัพสามราย

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างความฮือฮาด้วยการส่ง เวาท์ เว็กฮอร์สต์ กองหน้าที่ยืมมาจาก เบซิคตัส ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทันทีในเกมประเดิมสนามของเขาแทนที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่มีปัญหาบาดเจ็บ แล้วก็ไม่มีส่วนร่วมกับเกมนี้

รวมแล้ว ผีแดง เปลี่ยนโผจากเกมเปิดบ้านสยบ แมนฯ ซิตี้ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสามรายโดย ลิซานโดร มาร์ติเนซ ได้ลงเล่นแทน ไทเรลล์ มาลาเซีย เป็นการฉลองวัน เกิดอายุครบ 25 ปีพอดีของกองหลัง แชมป์โลก รวมทั้งทำให้ ลุค ชอว์ กลับไปรับภาระ แบ็คซ้ายดังเดิม

นอกจากนั้น อันโตนี่ ก็กลับสู่โผตัวจริงแทน เฟร็ด ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟิตมากพอที่จะลงสนามได้

เว็กฮอร์สต์

3. เว็กฮอร์สต์ ไหวมั้ย?

อาจเป็นแค่เพียงเกมแรก ของสตาร์ชาวเมือง กังหันลมกับ ปีศาจแดง แต่เท่าที่ได้มองเห็นหน่วยก้านของ เว็กฮอร์สต์ คล้ายกับว่า เทน ฮาก อาจเลือกเซ็นสัญญากับศูนย์หน้าผิดคนก็เป็นได้

โอเคว่าที่ปรึกษาสกินเฮด มีเจตนารมณ์ต้องการหัวหอก ขนานแท้ที่จะรอปักหลักอยู่ข้างหน้า และก็หากเล่นลูกกลาง อากาศได้ฉมังก็ยิ่งเจ๋งใหญ่ก็เลยทำให้หวยไปลงที่ดาวยิงทีม เบิร์นลีย์ ถึงแม้ ผีแดง จะโดนลือกับศูนย์หน้าเป็นร้อย ๆ ราย

อย่างไรเสีย จากที่เห็นใน 45 นาทีแรกที่ เซลเฮิร์สพาร์ค เว็กฮอร์สต์ ออกจะเทอะทะเกินไป และไร้สปีดซึ่งทำให้เขาไม่ทันการเล่นเกมรุกที่เร็วจัดของ แมนฯ ยูไนเต็ด สักเท่าไหร่

เว้นแต่โอกาสขึ้น กระแทกที่ไม่ตรงกรอบ สตาร์หน้าใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เกือบจะทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ดีที่ว่าก่อนจบครึ่งแรกไม่นาน คริสเตียน เอริคเซ่น ตวัดบอลจากกราบซ้ายให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดตุงตาข่ายพา แมนฯ ยูไนเต็ด นำหน้า 1-0 จนกระทั่งได้

ถึงตอนนี้ กองกลางโปรตุกีส จึงยิงประตูในเกม พรีเมียร์ลีก อีกทั้งนัดเหย้าแล้วก็นัดเยี่ยม 20 ลูกเท่ากันแล้ว ซึ่งมีนักฟุตบอลเพียงแค่สี่รายที่มีผลงานดีเลิศทัดเทียมกันนับตั้งแต่ แฟร์นันด์ส ประเดิมสนามในเดือนกุมภาพันธ์2020 ซึ่งประกอบไปด้วย แฮร์รี่ เคน , โม ซาลาห์ และก็ ซน ฮึง มิน

จากนั้นในครึ่งหลัง เว็กฮอร์สต์ ยังได้อยู่ในสนามต่อจนกระทั่งนาทีที่ 70 ก่อนโดนเปลี่ยนออกไป พร้อมกับ อันโตนี่ ที่ฟอร์มลดน้อยลงทุกที ต่างไปจากช่วงต้นซีซั่นให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงบู๊แทน

กาเซมีโร่ แมนยู

4. เทน ฮาก คิดผิดทำ กาเซมีโร่ โดนแบน?

เป็นเรื่องเกินความคาดหมาย เช่นเดียวกันที่โผ 11 ตัวจริงของ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดบุกมาเยี่ยม พาเลซ มี กาเซมีโร่ ออกสตาร์ตทั้ง ๆ ที่เขาสะสมใบเหลืองไปแล้วสี่ใบเนื่องด้วยผู้สันทัดกรณี คาดว่า เทน ฮาก คงจะเก็บมิดฟิลด์ คนสำคัญพักเอาไว้บู๊กับ อาร์เซน่อล มากกว่า

และแล้ว เรื่องที่แฟน ผีแดง ไม่อยากที่จะให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้ในช่วงสิบนาทีสุดท้ายเมื่อ กาเซมีโร่ ต้องต้องตัดฟาวล์จังหวะ อันตรายป้องกัน ไม่ให้ วิลฟรีด ซาฮา กระชากบอลเข้าเขตโทษ พร้อมรับใบเหลืองซึ่งจะมีผลให้ดาวเตะแซมบ้า ชวดฟาดเกือกกับ เดอะ กันเนอร์ส ตามแบบแผนอันอาจบอกได้ว่าเป็นการตัดสินใจ ที่ผิดพลาดอีกประเด็นของ เทน ฮาก

อย่างไรก็ดี เกมแรกที่ ผีแดง เปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อลได้ 3-1 เทน ฮาก ไม่ได้ส่ง กาเซมีโร่ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง แฟนบอล ผีแดง จึงต้องรอลุ้นกันว่าทีมรัก จะย้ำแค้น จ่าฝูงได้สำเร็จ หรือว่าจะเสียศูนย์ติดต่อกันเป็นนัดที่สอง

ผีแดง แมนยู

5. สถิติที่ แมนยู โดนทำลาย

นับจากออกสตาร์ต ครึ่งหลัง พาเลซ เดินเกมรุกอย่างดุดัน และก็สร้างปัญหาให้กับ ผีแดง เป็นระยะ

กระทั่งเข้าสู่ครึ่งทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ดูราวกับอ่อนระโหยโรยแรง ไม่อาจเก็บครองบอลได้ดีเสมือนช่วงครึ่งแรก และถูกจู่โจม ใส่แดนอันตรายมากขึ้นเป็นลำดับ

กระทั่งในที่สุดช่วงทดเวลา อาคันตุกะก็เสียเชิงให้กับเจ้าบ้านจนถึงได้เมื่อเสียลูกฟรีคิก ระยะอันตราย แถม ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ซัดตุงตาข่ายอย่าง งดงามซะด้วย แล้วก็ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีเวลามากพอที่จะ ควานหาประตูที่สองโดยต้องต้องแบ่งแต้มให้กับ ดิ อีเกิ้ลส์ ไปตามกฎกติกา

จากสถิติในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่า 63:37% แล้วก็ได้ยิง 10 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่ พาเลซ ได้ยิง 3 ครั้ง เข้ากรอบ 1 ครั้ง

จากนั้นหลังจบ 90 นาที สถิติฟ้องให้ มีความคิดเห็นว่า ผีแดง ออกอาการป้อแป้ แล้วก็ทำได้เพียงแค่เสมอกระทั่งได้ เนื่องด้วย พาเลซ สบโอกาสสับไกมากขึ้นรวม 10 ครั้ง รวมทั้งเข้ากรอบ 5 ครั้งซึ่งมีอยู่สองครั้ง เห็น ๆ ที่ ดาบิด เด เคอา ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ ขณะที่ทีมเยือนได้ยิงรวม 15 ครั้ง รวมทั้งเข้ากรอบน้อยกว่าซะอีกแค่ 4 ครั้งเท่านั้นถึงแม้เปอร์เซนต์การครองบอลจะยังเหนือกว่า 61:39%

จากคำตอบดังกล่าว ทำให้ทีม ผีแดง แมนยู

เสียสถิติยิงนำก่อนแล้วก็ชนะรวด 100% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้พวกเขาชนะมาตลอด 15 นัดในเกม พรีเมียร์ลีก แม้สามารถขึ้นนำทีมคู่แข่งได้ก่อน

แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ผลเสมอที่ลอนดอน ทำให้โอกาสลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลดลงไปอย่างน่าเสียดายเนื่องด้วยพวกเขาไม่อาจลดช่องว่างของคะแนนที่มีกับทีมจ่าฝูงได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยก่อนที่ทั้งสองทีมจะบู๊กันที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์นี้

เทน ฮาก อาแจ็กซ์

“เทน ฮาก” เล็งคว้า 3 แข้งดาวรุ่ง “อาแจ็กซ์”

สื่ออังกฤษเผย เทน ฮาก หวังดึง 3 แข้งดาวรุ่งฟอร์มแรกของ อาแจ็กซ์ มาร่วมงานด้วยอีกครั้งที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด มกราคมนี้

กระแสข่าวลือว่า เอริก เทน ฮากผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการตัวอดีตลูกทีมมาร่วมงานกันอีกทียังคงมีสม่ำเสมอ โดยล่าสุด เมโทร สื่ออังกฤษรายงานว่าผู้จัดการทีมดัตช์

ยังต้องการได้ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ เซ็นเตอร์แบ็กวัย 21 ปีที่ผลงานสะดุดตา รวมถึง เดวีน เรนช์ แบ็กขวาวัยเพียง 19 ปี ที่เป็นเด็กปั้นของอาแจ็กซ์ และก็ เคนเนธ เทย์เลอร์ กองกลางวัย 20 ปี ผลิตผลจากอะคาเดมี่เหมือนกัน

เป้าหมายของ เทน ฮาก คือต้องการลดอายุเฉลี่ยของทีม เพื่อสร้างขุมกำลังไว้ใช้งานในระยะยาว ซึ่งการมองหาดาวรุ่งที่คุ้นเคย ทำให้ใช้เวลาปรับตัวไม่มากทั้งในแล้วก็นอกสนาม แต่โอกาสที่ อาแจ็กซ์ จะยอมปล่อยผู้เล่นคนสำคัญไปพร้อมเป็นไปได้ยาก

นอกจาก 3 คนนี้แล้ว เทน ฮาก มองดูนักเตะคนอื่นๆในลีกดัตช์ รวมถึง มาร์คุส ตูราม หนึ่งในดาวรุ่งประเทศฝรั่งเศสที่กำลังได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป แต่เจ้าตัวยังอยากอยู่กับ โบรุสเซีย มึนอย่างเช่นกลัดบัค กระทั่งจบฤดูกาล

แมนยู

ใครคือ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ? ว่าที่กองหลังตัวใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด

เอริค เทน ฮาก คือว่าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า รวมทั้งมันก็มีการคาดหมายเอาไว้ว่าน้าแกจะหนีบลูกศิษย์ที่อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตามมาสบทบที่นี่ด้วย

หนึ่งในคนที่มีข่าวสารด้วยตอนนี้ก็คือ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ดังนั้นเมื่อได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในว่าที่ขุนพลคนใหม่ของ “ปีศาจแดง” วันนี้สิ่งที่ “ขอบสนาม” อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับไอ้หมอนี่กันครับ

ประวัติพอสังเขป

เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ชื่อเต็ม ๆ คือ เยอร์เรียน ดาวิด นอร์มาน ทิมเบอร์ เกิดวันที่ 17 มิถุนายน ปี 2001 ที่ อูเทร็คท์ ประเทศฮอลแลนด์ ปัจจุบันอายุ 20 ปี ส่วนสูง 179 เซนติเมตร หรือ 5 ฟุต 10 นิ้ว น้ำหนัก 79 กิโลกรัม ถนัดเท้าข้างขวา ประจำการในตำแหน่งกองหลัง ปัจจุบันสังกัดอยู่กับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้สวมเสื้อหมายเลข 2 และก็เป็นผู้เล่นที่มีเอเยนต์อยู่ในเครือของ ฟอร์ซ่า สปอร์ตส์ กรุ๊ป

แฝด

ไม่ใช่แค่ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ที่เป็นนักฟุตบอลคนเดียวของของครอบตัว แต่อีกหนึ่งฝาแฝดคลานตามกันมาอย่าง ฮวนเต็น ทิมเบอร์ ก็เดินบนเส้นทางสายลูกหนังเหมือกัน ทั้งคู่ต่างก็เป็นเริ่มต้นความฝันกับ ดีวีเอสยู ตั้งแต่ปี 2006 ก่อนจะย้ายมาปลุกปั้นรวมทั้งยกระดับฝีเท้าตัวเองต่อที่ เฟเยนูร์ด ร็อทคุณร์ดัม ในปี 2008 จากนั้นก็มาลงเอยกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในปี 2014

อีกทั้ง เยอร์เรียน และก็ ฮวนเต็น ได้ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมสำรองจองอาแจ็กซ์ พร้อมเมื่อปี 2018 โดยรายแรกได้ลงเล่นไป 39 นัด แล้วก็รายหลังได้ลงเล่นไป 40 นัด แต่ทว่าคนที่ดูได้ดิบได้ดีมากกว่าก็คือเจ้า เยอร์เรียน ที่ได้โอกาสกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2020 ก่อนที่ 2 ฤดูกาลหลังสุดจะพิสูจน์ตัวเองจนถึงกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม ได้ลงเล่นไป 70 นัด ยิงได้ 4 ประตู รวมทั้งทำไป 1 แอสซิสต์

ส่วนทาง ฮวนเต็น เป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ เขายังไม่เคยได้โอกาสประเดิมสนามในสีเสื้อ อาแจ็กซ์ชุดใหญ่ถึงแม้แต่นัดเดียว ก่อนจะถูกขายขาดให้กับ อูเทร็คท์ คู่แข่งร่วมลีกไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ฝาแฝด เยอร์เรียน ทิมเบอร์

ชีวิตในวัยเด็ก

คุณพ่อกับคุณแม่ของ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ต่างก็มีเชื้อสายของ คูราเซา รวมทั้ง อารูบัน มาจากหมู่เกาะ เอบีซี ทางชายฝั่งแคริบเบียนของ ฮอลแลนด์ แต่ด้วยปัญหาด้านความสัมพันธ์กับคนเป็นพ่อกับคนแม่เป็นอย่าง แมรี่ลิน สมัยที่ เยอร์เรียน ยังเด็กก็เลยทำให้เปลี่ยนมาใช้นามสกุล ทิมเบอร์ ของคุณแม่จนกระทั่งทุกวันนี้ นี่เป็นการแสดงให้มีความเห็นว่าสมัยยังเด็กไอ้หมอนี่ต้องเจอกับชีวิตที่ยากลำบากมาไม่น้อย

ถึงครอบครัวจะดูไม่สมบูรณ์แบบแต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเส้นทางในการเติบโตของเขาแถมยังอยู่ดีสุขสบายกับคุณแม่ที่ต้องเรียกลูก 5 คนเพียงลำพัง เนื่องจากจาก เยอร์เรียน กับ ฮวนเต็ง ที่เป็นแฝดกันแล้ว หารู้ไม่ว่าพวกเขายังมีพี่ชายอีกสามคนนั่นก็คือ ชาเมียร์, คริส และก็ ดีแลน

ผลงานกับ อาแจ็กซ์

ย้อนกลับไปวันที่ 7 มีนาคม ปี 2020 นั่นคือวันที่ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ได้โอกาสประเดิมสนามเกมแรกในสีเสื้ออาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ชุดใหญ่ซึ่งเป็นนัดที่ต้นสังกัดสามารถเอาชนะ ฮีเรนวีน ไป 2-1 แถมยังได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วย ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาที 82 เพราะเหตุว่ามีปัญหาอาการบาดเจ็บรวมทั้งเป็น เอดสัน อัลวาเรซ ที่ได้ลงมาแทนที่

ฤดูกาล 2020-21 เยอร์เรียน ทิมเบอร์ เริ่มได้โอกาสมากขึ้นหลังพิสูจน์ตนเองได้ดี พี่แกได้ลงเล่นไป 30 นัด ทำได้ 1 ประตูซึ่งการเปิดซิงประตูแรกในสีเสื้ออาแจ็กซ์ เกิดขึ้นในวันที่กระหน่ำ เอมเมน 4-0 และก็จากผลการแข่งขันในวันนั้นก็ทำให้อาแจ็กซ์ ผงาดเถลิงบัลลังก์แชมป์ เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ สมัยที่ 35 มาครองได้สำเร็จ

ด้วยวิวัฒนาการที่เยี่ยมที่สุดและผลงานที่ดีคงเส้นคงวามันก็เลยทำให้ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกนัดในฤดูกาล 2021-22 ทำได้ 3 ประตู รวมทั้งกดไป 1 แอสซิสต์ และก็ตอนนี้ก็กำลังพาอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ครองจ่าฝูงของลีก แล้วก็มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 36 ด้วย

สไตล์การเล่น

เยอร์เรียน ทิมเบอร์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กโดยธรรมชาติ มีความเป็นกองหลังในสมัยใหม่ด้วยเหตุว่ามีการผสมผสานกันระหว่างความแข็งแกร่งทางกายภาพรวมทั้งความคล่องแคล่วยามมีบอลอยู่กับเท้า มีความถนัดที่ดีในการครองบอล อ่านเกมขาด ตลอดจนการเข้าบอลที่รวดเร็ว พวกสื่อดัง ๆ ต่างก็เอาชื่อของเขาไปเปรียบเทียบกับ 2 กองหลังที่ดีที่สุดแห่งยุคไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รวมไปถึง เซร์คิโอ รามอส

ยิ่งกว่านั้นด้วยความสามารถทางด้านความกระปรี้กระเปร่ารวมทั้งการเคลื่อนที่ได้ดีมันก็เลยทำให้ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ สามารถโยกไปยืนเป็นผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กกว่าก็เป็นได้ แถมยังมีฟอร์มที่ดีอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเด็กเก่งและก็มีความสารพัดประโยชน์มากๆเลยทีเดียว

เยอร์เรียน ทิมเบอร์

ทีมชาติ

อย่างที่เกริ่นว่า เยอร์เรียน มีเชื้อสาย คูราเซา แล้วก็ อารูบัน เท่ากับว่าเจ้าตัวมีโอกาสเลือกรับใช้ 2 ชาตินี้ได้ แต่ด้วยความที่พี่แกลืมตาดูโลกบนแผ่นดินเนเธอร์แลนด์ก็เลยทำให้เขาตัดสินใจรับใช้ ทีมชาติฮอลแลนด์ ส่วนโอกาสการติดธงครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2017 กับรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี

ก่อนจะไล่มา ยู-19 แล้วก็ ยู-21 ในอีก 3 ปีให้หลัง ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 24 เกม ทำได้ 2 ประตู ตอนอายุประมาณ20 ปี เยอร์เรียน ทิมเบอร์ เคยได้โอกาสสัมผัสกับถ้วยแชมป์ ยูโร มาแล้ว แต่เป็นกับทีมรุ่นอายุไม่เกิด 17 ปีเมื่อปี 2018 ส่วนโอกาสกับกองทัพ “อัศวินสีส้ม” ชุดใหญ่นั้น

เจ้าตัวได้ประเดิมสนามในเกมอุ่นเครื่องในเกมที่อุ่นเครื่องกับ สกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ปีที่แล้ว แน่นอนว่าสำหรับ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ก็เป็นหนึ่งในขุนพล ทีมชาติฮอลแลนด์ ชุดฝ่าศึก ยูโร 2020 เช่นกัน ปัจจุบันพี่แกได้โอกาสติดธงไปแล้วทั้งสิ้น 6 นัดด้วยกัน
ทีมที่สนใจ

สื่อในประเทศสเปนอย่าง TodoFichajes เคยตีข่าวออกมาว่า 2 ทีมจากเมืองหลวงอย่าง แอตเลติโก มาดริด รวมทั้ง เรอัล มาดริด ต่างก็เคยแสดงความสนใจในตัวเจ้า เยอร์เรียน ทิมเบอร์ อย่างไรก็ตามกระแสตอนนี้เสมือนจะหนักไปทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังจะได้ เอริค เทน ฮาก ไปเป็นนายใหญ่คนใหม่คอยบัญชา ในฤดูกาลหน้า โดย แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ รวมไปถึงสื่อดังอีกหลายสำนักค่อนข้างจะดูไปในทางเดียวกันว่านี่น่าจะเป็นการเซ็นสัญญารายแรกของ “ปีศาจแดง” เพื่อไปช่วยแก้ไขปัญหา ในแนวรับที่กำลังย่ำแย่ถึงระดับสูงสุด

ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023

"นาดาล-ยอโควิช" งานเบาประกบคู่ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023

“แชมป์เก่า” ราฟาเอล นาดาล แล้วก็ โนวัค ยอโควิช เจองานไม่หนัก ในการประเดิม สนามรอบแรก ศึกเทนนิส ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 แกรนด์สแลมแรกขอปี ที่ประเทศออสเตรเลีย

ฝ่ายจัดการแข่งขัน เทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น แกรนด์สแลม แรกของปี ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการจับฉลาก ประกบคู่ประจำปี 2023 ปรากฎว่า ในประเภทชายเดี่ยว รอบแรก ราฟาเอล นาดาล มือวางอันดับ 1 ของรายการ รวมทั้งแชมป์เก่ารายการนี้จากสเปน เจองานไม่หนัก เมื่อจะประเดิมสนามเจอกับ แจ็ค เดรเปอร์ มือ 40 ของโลก

จากสหราชอาณาจักร ขณะที่ โนวัค ยอโควิช มือ 4 ของรายการจากเซอร์เบีย จะพบกับ โรเบร์โต้ การ์บาเยส บาเอน่า มือ 75 ของโลกจากประเทศสเปน ส่วน แคสเปอร์ รุด มือ 2 ของรายการ จะเจอกับ โทมัส มาชาค มือ 115 ของโลกจากสาธารณรัฐเช็ก

โนวัค ยอโควิช

ด้านประเภทหญิงเดี่ยว อิก้า สเวียเท็ก มือ 1 ของโลกจากโปแลนด์ เจองานไม่หนักเช่นเดียวกัน เมื่อจะประเดิมสนามเจอกับ ยูล นีไมเยอร์ มือ 68 ของโลกจากเยอรมนี ขณะที่ ออนส์ จาเบอร์ มือ 2 ของโลกจากตูนิเซีย เจอกับ ทามาร่า ซิดานเช็ก มือ 88 ของโลกจาก สโลวีเนีย ด้าน ดาเนียลล์ คอลลินส์

รองแชมป์เก่า เมื่อครั้งที่แล้วจากสหรัฐฯ เจอกับ แอนนา คาลินสกาย่า มือ 64 ของโลกจากรัสเซียโนวัค ยอโควิช คว้าแชมป์รายการที่ 92 ในอาชีพ หลังจากชนะ ในศึกเทนนิส แอดิเลด อินเตอร์เนชันแนล 1

เทนนิสเอทีพี ทัวร์ 250 รายการแอดิเลด อินเตอร์เนชั่นแนล (1) รายการอุ่นเครื่องก่อนเข้าศึก ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ โนวัค ยอโควิช อดีตมือ 1 ของโลก ที่ตอนนี้รั้งอันดับ 5 โลก และก็เจ้าของแชมป์ 21 แกรนด์สแลม เจอกับ เซบาสเตียน คอร์ด้า มืออันดับ 33 ของโลกจากสหรัฐ ปรากฏว่า ยอโควิช มือ 5 ของโลก เป็นฝ่ายชนะไป 2-1 เซต สกอร์ 6-7 (8-10), 7-6 (7-3), 6-4 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ รวมทั้งนับว่าเป็นแชมป์ในทัวร์รายการที่ 92 ในอาชีพ พร้อมรับเงินรางวัล ประมาณ 3.2 ล้านบาท

ยิ่งไปกว่านี้ยังเป็น การเรียกความมั่นใจก่อน ลุยออสเตรเลียน โอเพ่น ในอาทิตย์หน้า ที่ยอโควิช เป็นแชมป์มากสุด 9 สมัย หลังจากปีที่แล้ว ไม่ได้ลงเล่นและถูกขับออกนอกประเทศ เนื่องจากว่าไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

ราฟาเอล นาดาล

‘นาดาล’ ลั่นร่างกายฟิตปั๋ง พร้อมป้องกันแชมป์ ออสซี่ โอเพ่น

ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 2 ของโลกชาวสเปน เปิดเปิดเผยว่า ในรายการ อุ่นเครื่องที่ประเทศออสเตรเลีย 2 รายการก่อนศึกแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ที่จะเริ่มตันในวันที่ 16 มกราคม ตนเองยังไม่เล่นได้

ตามมาตรฐานที่เคยเป็น แต่ก็มีความสุขดีกับการเตรียมความพร้อมก่อนจะไปลุ้นป้องกันแชมป์ ตอนนี้สภาพร่างกายดีมาก ๆ แต่ก็ต้องไปโชว์ ฟอร์มที่ดีในการแข่งขัน ด้วยเหตุว่ามีเป้าหมาย ที่จะคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง

“จากการฝึกซ้อมและแข่งขันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทำให้มั่นใจว่าถ้าหากทำได้ดีแบบนี้ ก็มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ได้” นาดาลกล่าว

นักหวดสเปน กล่าวถึงการที่เป็น พ่อลูกอ่อน และยังต้องแข่งเทนนิส อาชีพ ว่า ต้องปรับตัวกับเรื่องใหม่ ๆ ในชีวิต เพราะเป็นครั้งแรกที่มีลูก ต้องใช้เวลา ในการทำให้ทุกอย่าง กลับมาคงที่อย่างเดิม แต่คนรอบข้างก็ช่วยให้ก้าวผ่านไปได้ แบบไม่มีปัญหาเลย

นาดาล ยังคงเป็นนักกีฬาเทนนิส ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลม ประเภทชายเดี่ยว ได้มากที่สุด ที่ 22 รายการ รองลงมาเป็นโนวัก โยโควิช มือ 5 ของโลกจากเซอร์เบีย ทำได้ 21 รายการ

ศึกเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น

เฟเดอเรอร์ หวังลงเล่นคู่ นาดาล ก่อนปิดฉากอาชีพในเลเวอร์คัพ และ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2023

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ผู้ครอบครองแชมป์แกรนด์สแลม 20 รายการ วัย 41 ปี ที่ประกาศจัดเตรียมแขวนแร็กเก็ต หลังจบการแข่งขันเลเวอร์คัพ ที่จะแข่งขันกัน ได้เปิดเผยว่า หาก เขาได้จับคู่ลงแข่งกับ ราฟาเอล นาดาล ที่เป็นเช่นเดียวกับคู่อริในสนามแข่งขัน ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จะเป็นสิ่งที่เยี่ยมมาก

เฟดเอ็กซ์ ออกมาเปิดเผยในงานแถลงข่าวครั้งแรกที่โอทู อารีน่า ว่า การแข่งขันประเภทคู่ในวันศุกร์นี้ จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เขาก้าวลงสนามแข่งขัน ในฐานะนักกีฬาเทนนิสอาชีพ ซึ่งเขาหวังว่าจะได้จับคู่กับนาดาล คู่อริตลอดกาล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ให้กับวงการเทนนิสว่า คู่อริ ก็เป็นเพื่อนกันได้”

ศึกเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น 2023

“สำหรับผมแล้วการลงสนามร่วม กับใครก็ตามนับว่าเป็น สิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก เนื่องจากผมไม่ได้ ลงแข่งขัน ในสนามมาเป็นเวลานาน รวมทั้งผมทราบว่านั่น จะเป็นบรรยากาศที่ดี มากกับแฟน ๆ ในสนาม แต่แน่นอนว่าถ้าเป็นนาดาล ผมมีความคิดว่าจะเป็นเรื่องแปลกที่เราจะลงแข่งขันด้วยกันในแมตช์สุดท้ายของผม”

“ผมมีความคิดว่าจะเป็น สถานการณ์ที่แปลกใหม่ หากมันเกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุว่าเราได้ต่อสู้กันมาตลอด และก็มีความเคารพ ให้แก่กันมาตลอด ทั้งครอบครัว และทีมโค้ช ผมมีความรู้สึกว่าพวกเราเข้ากันได้มาตลอด ส่วนตัวสำหรับเรา ตลอดเส้นทางอาชีพ

ที่ผ่านมาเราได้ต่างพบกับผลการแข่งขัน ที่แตกแตกต่างกัน แต่ก็ยังสามารถ รักษาความชมรมที่ดีได้ ผมมีความคิดว่านี่จะเป็นข้อความ ที่ดีที่เราจะบอก ไม่ใช่แค่สำหรับวงการ เทนนิส แต่ในกีฬาชนิดอื่น ๆ หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งผมรู้สึกว่าจะเป็นเหตุผล ที่ทำให้แมตช์นี้ยิ่งใหญ่มาก”

กุน อเกวโร่

ไม่ใช่แค่ชูถ้วยเล่น ๆ !! “กุน” ได้รับเหรียญแชมป์โลกพร้อมเพื่อนอาร์เจนตินา

สื่อดังอังกฤษ รายงาน ” กุน อเกวโร่ ” อดีตกองหน้าทีมชาติ อาร์เจนตินา ถูกใส่ชื่อเป็นทีมสตาฟฟ์ ในเกมรอบชิงชนะเลิศแล้วก็จะได้รับเหรียญแชมป์โลก

givemesport สื่อดังของประเทศอังกฤษ เปิดเปิดเผยว่า สาเหตุที่ เซร์คิโอ อเกวโร “กุน” อดีตกองหน้าทีมชาติ อาร์เจนตินา สามารถลงไปร่วมฉลองแชมป์โลก กับนักเตะในสนามแข่งขัน รวมทั้งชูถ้วยแชมป์โลกร่วม กับทีมได้ เพราะสมาคม ฟุตบอลอาร์เจนติน่า ได้ใส่ชื่อของเขา เป็นทีมสตาฟฟ์ในเกมรอบชิงแชมป์ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่สามารถร่วมฉลองกับนักฟุตบอลได้เท่านั้นกุน ยังได้รับเหรียญรางวัลแชมป์โลก 2022 อีกด้วย

ทั้งนี้กุน ต้องแขวนสตั๊ด ไปเมื่อช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา หลังถูกตรวจเจอว่า มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ อย่างไรก็ตามเขา ถูกเชิญให้เข้าไปร่วม ในแคมป์ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในช่วงก่อนเกมนัดชิงแชมป์ เพื่อมาเป็นสตาฟฟ์โค้ช รวมถึงรูมเมท ของ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีม เพราะว่าทั้งสองเป็นเพื่อนซี้กัน

กุน อเกวโร่ กับเบื้องหลังในการช่วยอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก

ถ้าหากไม่นับ ลิโอเนล เมสซี่ แล้ว นักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด หลังจบเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 คงหนีไม้พ้น เซร์คิโอ อเกวโร ที่ไม่เพียงแต่จะสร้างสีสัน ด้วยการตีกลองเฉลิมฉลองในสนาม แต่ยังได้รับเกียรติ ให้ชูถ้วยแชมป์โลก ราวกับเป็นหนึ่งในสมาชิก ของทีมชุดนี้ ทั้งยังที่ตัวของอเกวโร ก็ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลไปครู่หนึ่งแล้ว

นี่คือเรื่องราว ของตำนานชาวอาร์เจนตินา อีกหนึ่งคน ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมลงสนาม กับเพื่อนร่วมชาติที่กาตาร์ แต่เขาไม่เคยจากทีมไปไหน และยังคงเป็น สมาชิกของทัพฟ้าขาวตลอดมา และนี่คือเรื่องราวของ เซร์คิโอ อเกวโร่ กำลังใจสำคัญ ของทีมชาติอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ขี่คอกุน อเกวโร่

ไม่มีกุน ไม่มีเมสซี
ย้อนกลับไปก่อน ทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์ จะเริ่ม มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่า ลิโอเนล เมสซี จะลงแข่งขันรายการฟุตบอลโลก 2022 โดยปราศจากเพื่อนร่วมห้อง อย่างที่เคยเป็นมา ซึ่งเหตุผลของการตัดสินใจคราวนี้คือ

กัปตันทีมหมายเลข 10 ต้องการมุ่งสมาธิ ไปยังฟุตบอลโลกครั้งสุดท้าย ของตนอย่างถึงที่สุด ก็เลยไม่ยอมรับจะร่วมห้องกับรูมเมทคนไหนในทีมชุดนี้

อย่างไรก็ตาม เหตุผลโดยความเป็นจริงที่ทุกคน ทราบกันดีเกี่ยวกับการเลือกหอพักของเมสซี่ ในบอลโลกครั้งนี้ คือการขาดหายไปของเพื่อนซี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เพราะเหตุว่านับตั้งแต่ศึกโอลิมปิก 2008 เป็นต้นมา เมสซี่ไม่เคย พักร่วมกับนักฟุตบอลอาร์เจนตินารายอื่น เว้นแต่อเกวโร่ นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ทั้งสองจะสนิทกันมาก กระทั่งเมสซี่ยอมให้ อเกวโร่เป็นพ่อที่รัก ลูกชายของเขา

ทั้งสองต่างร่วม สู้ศึกเพื่อทีมชาติอาร์เจนตินาจนถึงทัวร์นาเมนต์โคปา อเมริกา 2021 ซึ่งการแข่งขัน รายการดังกล่าวจบ ลงด้วยชัยชนะของทัพฟ้าขาว นี่คือการคว้าแชมป์ในระดับนานาชาติครั้งแรกของเมสซี่ แถมเจ้าตัวยังกวาด รางวัลดาวซัลโว แล้วก็นักฟุตบอลดีของทัวร์นาเมนต์ โดยเบื้องหลังความสำเร็จตอนนั้น อเกวโร่คือผู้ที่ยืน อยู่เคียงข้างเมสซี่เสมอ

การลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 โดยมีอเกวโร่เคียงข้าง ก็เลยคงจะสร้างความสบายใจ ให้กับเมสซี่เป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่เรื่องราวนั้น แทบไม่เกิดขึ้น หลังอเกวโร่ตัดสินใจ ประกาศแขวนสตั๊ดแบบกระทันหัน ด้วยเหตุว่าปัญหาด้านสุขภาพเรื่องโรคหัวใจ เมสซี่ก็เลยต้องเดินทางสู่กาตาร์ โดยปราศจากรูทเมท คนเดิมที่ร่วมห้องกันมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี

แต่เมื่อฟุตบอลโลก 2022 เดินทางเข้าใกล้การแข่งขัน นัดชิงแชมป์ทุกขณะ แม้แต่นักฟุตบอล ที่เก่งที่สุดในโลกก็ไม่สามารถรับแรงกดดัน ผู้เดียวได้ เขาต้องการสักคนมาอยู่เคียงข้าง รวมทั้งรอให้คำแนะนำในช่วงเวลานอกสนาม

กุน อเกวโร่ เมสซี่

กุน ก็เลยถูกเรียกตัว สู่แคมป์ทีมชาติอาร์เจนตินา

เพื่อรับบทบาท “เพื่อนร่วมห้องของเมสซี่” ซึ่งเจ้าตัวเดินทางสมทบ เพื่อนร่วมชาติในทันที โดยไม่แสดงให้มองเห็นถึงความลังเลถึงแม้แต่น้อย

รอยยิ้มของเมสซี่ก็เลยกลับมา และชีวิตชีวา ในแคมป์อาร์เจนตินายังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ดี การมาของอเกวโร่คราวนี้ไม่ได้คืนรอยยิ้มแก่ กัปตันทีมหมายเลข 10 ของกองทัพฟ้าขาวเท่านั้น แต่มันยังคืนรอยยิ้ม ของอเกวโร่ที่ โบกมือลา โลกลูกหนังอย่างกระทันหัน เมื่อปีก่อนด้วยเหมือนกัน

เคียงข้างทัพฟ้าขาวตลอดมา

ความจริงแล้ว เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้รับคำเชิญ ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของทีมชาติอาร์เจนตินา ตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่ม แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธคำเชิญนี้ โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องการสนุกกับการแข่งขัน ที่กาตาร์ในฐานะแฟนบอลมากกว่า

แต่ชีวิตในฐานะแฟนบอล ของอเกวโร่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เริ่มด้วยการที่เขาซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางสู่กาตาร์ ก่อนพบว่าบนเครื่อง เต็มไปด้วยแฟนบอลชาวบราซิล ตามมาด้วยการถูกกีดกันไม่ให้เข้าสู่แคมป์ทีมชาติอาร์เจนตินา

เพราะเหตุว่าสมาคมฟุตบอลเตรียมเอกสารไม่ทัน ส่งผลให้อเกวโร่ ไม่สามารถเข้าแคมป์ได้อย่างถูกต้อง จนถึงอดให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม ก่อนกองทัพฟ้าขาวปราชัยแก่ซาอุดิอาระเบีย 1-2

เมื่อเวลาผ่านไป และก็บรรดาทีมงานอาร์เจนตินาเริ่มใส่ใจได้ว่า อเกวโร่อาจ เป็นตัวนำโชคของพวกเขา อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงถูกเชิญเข้าสู่แคมป์ของอาร์เจนตินาในช่วงก่อนนัดชิงแชมป์ โดยเขาจะไม่ทำหน้า ที่เป็นรูมเมท ของเมสซี่เท่านั้น แต่อเกวโร่จะก้าวมาเป็นหนึ่งในทีมสตาฟฟ์ แถมยังลงฝึกฝนกับขุนพลทีมชาติอาร์เจนตินาอีกต่างหาก

เมสซี่

หวังป้องกันแชมป์? เมสซี่ ยันแล้วยังไม่เลิกรับใช้แผ่นดินเกิด

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ประกาศชัดเจนว่าจะยังรับใช้ชาติถัดไป หลังประสบความสำเร็จพาทีม ฟ้าขาว คว้าตำแหน่ง แชมป์โลก 2022 มาเชยชมจากการพิชิต ประเทศฝรั่งเศส ด้วยการดวลลูกโทษตัดสินเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.

เมสซี่ เคยให้สัมภาษณ์ กับสื่อว่าศึก ฟุตบอลโลก 2022

จะเป็นการร่วมฟาดแข้ง ในรายการนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของเขาก่อนบอกลาทีมชาติ เนื่องจากในอีกสี่ปีข้างหน้า เขาจะมีอายุ 39 ปีซึ่งสูงวัยมากเกินไป

อย่างไรก็ดี ดาวเตะทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่ได้ระบุชัดว่าจะโบกมือลาทีมชาติ ทันทีหรือไม่หลังจบภารกิจที่ กาตาร์ รวมทั้งล่าสุดเจ้าตัวได้เอ่ยว่าจะยังรับ ใช้แผ่นดินเกิดต่อไป แต่ไม่ชัดเจนว่าเขาหวังพาทีมป้องกันแชมป์ในปี 2026 หรือไม่

“ผมยังไม่รีไทร์จากทีมชาติ อาร์เจนติน่า” เมสซี่ เอ่ยกับสื่อหลังจบเกมชิงชนะเลิศดวลกับ แชมป์เก่า

“ผมต้องการเล่นต่อในฐานะแชมป์ เราเหนื่อยกันมาก แต่พวกเราเป็น แชมป์โลก แล้วในตอนนี้”

“ผมต้องการเล่นต่อ ผมไม่อาจขออะไรมากกว่านี้ ได้อีกแล้ว ขอบคุณพระเจ้า ที่มอบทุกอย่างให้ผม”

ลิโอเนล เมสซี่

ขณะเดียวกันนี้เมสซี่ ได้โพสต์ข้อความลงบนอินสตาแกรมเหมือนกัน

“แชมป์โลก! ผมฝันถึงสิ่งนี้มาหลายทีแล้ว ผมต้องการมันมาก ผมไม่ต้องการจะเชื่อเลย…”

“ขอบคุณครอบครัวของผมเป็นอย่างสูง และก็ทุกคนที่สนับสนุน ผมซึ่งเชื่อมั่นในตัวพวกเรา”

“เราแสดงให้มองเห็นอีกครั้งถึงความเป็นชาว อาร์เจนไตน์ ซึ่งพวกเราต่อสู้ด้วยกัน และก็เป็นหนึ่งเดียวกันจนประสบความสำเร็จอย่างที่เราตั้งเป้าเอาไว้”

“ขอยกความดี ความชอบ ให้กับนักเตะ ทุกคน มันเป็นการต่อสู้โดยมีความฝันร่วมกันซึ่งเป็นความฝันของชาว อาร์เจนไตน์…พวกเราทำสำเร็จแล้ว!”

ต่อการประกาศดังกล่าวของ เมสซี่เชื่อว่าเขาอาจรับใช้ชาติถัดไปจนถึงปี 2024 เพื่อป้องกันแชมป์ โกปา อเมริกา ที่ตัวเขาเองประสบความสำเร็จได้แชมป์รายการดังกล่าวเป็นครั้งแรกในชีวิต เช่นกันเมื่อปี 2021

เข้าทำเนียบตำนาน! เมสซี่แข้งรายที่ 9 สร้างประวัติศาสตร์ลูกหนังโลก

ลิโอเนล เมสซี่กองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา สร้างตำนานกลายเป็นผู้เล่นรายที่ 9 ในหน้าประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วก็ บัลลงดอร์ ตลอดอาชีพนักฟุตบอล

ดาวเตะวัย 35 ปีซึ่งปัจจุบันนี้โลดแล่นอยู่กับปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ทำสถิติลงเล่นในศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายมากที่สุด 26 เกมแซงหน้า โลธ่าร์ มัทเธอุส ตำนานทีมชาติเยอรมนี

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า

ยิ่งไปกว่านี้ ตำนาน “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า เพิ่งจะทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติ อาร์เจนตินาในฟุตบอลโลกที่เคยเป็นของ กาเบรียล บาติสตูต้า ด้วยการยิงไปแล้ว 13ประตู

ตอนนี้ เมสซี่ สร้างตำนานบทใหม่ในอาชีพเมื่อนำทัพ “ฟ้าขาว” ผงาดคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ 2022 ด้วยการคว่ำ ฝรั่งเศส ด้วยการดวลจุดโทษชนะ 4-2 หลัง 120 นาทีเสมอ 3-3 ทำให้เขาเข้าทำเนียบนักเตะรายที่ 9 ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูโรเปี้ยน คัพหรือแชมเปี้ยนส์ ลีก และ บัลลงดอร์

ทำเนียบนักฟุตบอลอาชีพที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ยูโรเปี้ยน คัพ) และบัลลงดอร์

1. บ็อบบี้ ชาร์ลตัน

ฟุตบอลโลก 1966 (อังกฤษ); ยูโรเปี้ยน คัพ 1968 (แมนฯ ยูไนเต็ด); บัลลงดอร์ 1966

2. ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์

ฟุตบอลโลก 1974 (เยอรมันตะวันตก); ยูโรเปี้ยน คัพ 1974, 1975, 1976 (บาเยิร์น); บัลลงดอร์ 1972, 1976

3. แกร์ด มุลเลอร์

ฟุตบอลโลก 1974 (เยอรมันตะวันตก); ยูโรเปี้ยน คัพ 1974, 1975, 1976 (บาเยิร์น); บัลลงดอร์ 1970

4. เปาโล รอสซี่

ฟุตบอลโลก 1982 (อิตาลี); ยูโรเปี้ยน คัพ 1985 (ยูเวนตุส); บัลลงดอร์ 1982

5. ซีเนดีน ซีดาน

ฟุตบอลโลก 1998 (ฝรั่งเศส); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2002 (เรอัล มาดริด); บัลลงดอร์ 1998

6. ริวัลโด้

ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2003 (เอซี มิลาน); บัลลงดอร์ 1999

7. โรนัลดินโญ่

ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2006 (บาร์เซโลน่า); บัลลงดอร์ 2005

8. กาก้า

ฟุตบอลโลก 2002 (บราซิล); แชมเปี้ยนส์ ลีก 2007 (เอซี มิลาน); บัลลงดอร์ 2007

9. ลิโอเนล เมสซี่

แชมเปี้ยนส์ ลีก 2006, 2009, 2011, 2015 (บาร์เซโลน่า); บัลลงดอร์ 2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021

ฟุตบอลโลก

วงการ กีฬาจีน สู่อุตสาหกรรมโลก ฟุตบอลโลก

งวดเข้ามาทุกทีสำหรับแชมป์ ฟุตบอลโลก “กาตาร์ 2022” ที่เต็มไปด้วยความ “พลิกล็อก” แต่ก็เป็นเสน่ห์ให้ผู้คนต้องการติดตามชมการแข่งขันกันมากขึ้น …

การเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ในครั้งนี้ต้อง ฟันฝ่ายอุปสรรค และความท้าทาย ไล่ตั้งแต่หลังการได้รับการ คัดเลือกเป็นเจ้าภาพ ที่มีกลิ่น “เงินใต้โต๊ะ” โชยมาแรง กระทั่งทำเอากาตาร์ ถูกครหา และคณะผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ของฟีฟ่า (FIFA) ซึ่งเป็นองค์กรจัดงานหลัก โดนสอบปากคำในคดีรับสินบน กันมากมาย

ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาของการแข่งขันที่ แตกต่างไปจากธรรมเนียมเดิม ที่ปกติจัดในช่วงกลางปี มาเป็นช่วงปลายปีเพื่อหลีกหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ในกาตาร์ในช่วงฤดูร้อน ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สร้างความไม่พอใจกับลีกฟุตบอลของหลายประเทศ โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างยิ่งในยุโรป ที่ต้องปรับเปลี่ยนตารางครั้งใหญ่

หลายลีกดัง ในยุโรปที่เริ่มเปิดฤดูกาลไปในระยะแรก ก็มีนักเตะบาดเจ็บจำนวนมากและ พลาดโอกาสในการร่วม แสดงฝีเท้าที่กาตาร์ในครั้งนี้ ขณะที่นักฟุตบอลบางส่วนที่ทีมของตัวเองเข้ารอบลึกก็กังวลใจกับอาการ บาดเจ็บ มากขึ้นหลัง จบการแข่งขันฟุบอลโลก เนื่องจากต้องไปลุย ฟุตบอลลีกกันต่อแบบไม่ได้ “พักน่อง” กัน

ขณะเดียวกัน โดยที่กาตาร์ มีอิสลามเป็น ศาสนาประจำชาติ ทำให้มีข้อกฎหมายและธรรมเนียม ปฏิบัติของท้องถิ่น ที่แตกต่างและเข้มงวดกว่าของหลายประเทศ ส่งผลให้ผู้สนับสนุนการแข่งขันบางรายก็สูญเสียโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่ขัดกับหลักศาสนา อาทิ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ขณะที่แฟนบอลที่คุ้นเคยกับการ “ซดเบียร์ เชียร์บอล” ก็อาจรู้สึกเสียอารมณ์ไปบ้าง

นอกจากนั้น ผู้จัดงานยังโดนข้อตำหนิ เกี่ยวกับประเด็นสิทธิ มนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือ กลุ่มคน LGBTQ รวมถึงแรงงาน ต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยว ข้องในกาตาร์ ซึ่งก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของแรงงานนับพันคนอีกด้วย

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นความท้าทายใหญ่ ของผู้จัดงานก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในช่วง 3 ปีหลัง ส่งผลให้การจัดการแข่งขัน “อยู่บนเส้นด้าย” และขาดความแน่นอนอยู่นาน โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายคนยังเกรงว่ากาตาร์จะเจอ “โรคเลื่อน” หรือจำต้องจัดการแข่งขันใน “ระบบปิด” เลยก็มี

แม้จำความกันได้ การแข่งขันโอลิมปิก ฤดูร้อนที่โตเกียว และโอลิมปิกฤดูหนาว ที่ปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นกิจกรรมด้านกีฬาใหญ่ที่ถูก จัดไปที่ผ่านมา จำเป็นต้องจัดการแข่งขันแบบ “ระบบปิด” ที่แทบไร้คนดูในสนาม ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวท้องถิ่นและต่างชาติไม่อาจเดินทางไปร่วมชมการแข่งขันได้ ส่งผลให้การจัดการ แข่งขันลดสีสันและความน่าสนใจไปมาก แถมผู้จัดงานยังสูญเสีย รายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจอื่นเป็นจำนวนมหาศาล

แม้กระทั่งแขกรับเชิญพิเศษของไทย ท่านหนึ่งที่เดินทางไปร่วมงานที่กรุงปักกิ่งก็ยังบ่นว่า การเข้าร่วมงานในครั้งนั้น “ไม่สามารถกระดิกตัวไปไหนได้เลย” โดยใช้เวลาทั้งหมดอยู่ที่โรงแรมที่พักและสนามแข่งขันเท่านั้น ขนาดจะขอแวะเข้าห้องสุขาระหว่างทาง ก็ยังทำไม่ได้ ทำให้ไม่อาจซึมซับ ความงดงามของบ้านเมืองและการต้อนรับของผู้จัดงานได้ดีเท่าที่ควร

กาตาร์ 2022

แต่เมื่อ ฟุตบอลโลก ครั้งนี้ใกล้เข้ามา

กาตาร์ก็ดูจะ “มากับดวง” กล่าวคือ เชื้อโควิดอ่อนแรงลงในช่วงหลัง ประเทศต่าง ๆ ทั้งโลกมีมุมมอง “ที่ต้องอยู่กับโควิด” ทำให้เริ่มคลายล็อก และเปิดให้มีการเดินทางระหว่าง ประเทศกันกระทั่งแทบเป็นปกติ แถม “กาตาร์ 2022” ก็ยังเป็นกิจกรรมใหญ่แรกในยุคหลังโควิด

เว้นเสียแต่การทุ่มเงินขยาย สนามบินระหว่างประเทศฮาหมัด (Hamad International Airport) รถไฟใต้ดิน สนามฟุตบอล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมพรั่งอย่างที่คุยกันไปเมื่อคราวก่อนแล้ว เรายังได้เห็นความพยายามของกาตาร์ ในการสั่งสมประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาระดับระหว่างประเทศมาอย่างตลอดในช่วงหลายปีหลัง อาทิ การจัดแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ แฮนด์บอลล์ชายโลก และกรีฑาชิงแชมป์โลก

ด้วยจังหวะเวลาที่ดี ดังกล่าว การเตรียมการจัดงาน ที่ดี และความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเอาจริงเอาจังของกาตาร์ ทำให้แฟนบอลที่รอรอเวลามานาน ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตั๋วนั่งชมฟุตบอลกว่า 3 ล้านใบได้ ถูกจำหน่ายล่วงหน้าไปแล้ว โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างยิ่งผู้คนในประเทศใกล้เคียงจากซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ รวมถึงคอลูกหนังจากบราซิล อาร์เจนตินา สหรัฐฯ เม็กซิโก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และโมร็อกโค ที่ทีมชาติของตัวเองเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ดังนี้ นักวิเคราะห์ใน วงการกีฬาประเมินว่า ฟีฟ่าจะมีรายได้จากการจัดการแข่งขันในครั้งนี้มากกว่าเมื่อคราวที่จัดขึ้นที่รัสเซียในครั้งก่อนถึง 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

จากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้มีความคิดเห็นว่า การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกของกาตาร์ช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะสั้น อีกทั้งจากการลงทุนก่อสร้างและแก้ไขโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งสร้างงานใหม่ราว 1.5 ล้านตำแหน่ง

สำนักงาน ส่งเสริมการลงทุน แห่งกาตาร์ (Investment Promotion Agency of Qatar) เปิดเปิดเผยว่า นับแต่ปี 2010 ที่กาตาร์ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพ เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 4.5% ต่อปี ขณะที่กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ของกาตาร์ก็บอกว่า แม้ว่าจะต้องพบเจอกับวิกฤติโควิด ในช่วงหลายปีหลัง แต่โอกาสด้านการค้าและการลงทุนที่เกี่ยวกับการตระเตรียมงานและการดำเนินการ จัดฟุตบอลโลกยาวไปจนถึงปี 2023 รวมจำนวน 83 โครงการ

นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากการมากขึ้นของโครงการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่หลั่งไหลเข้าสู่กาตาร์ในหลากหลายสาขาธุรกิจ อาทิ บริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ การโฆษณา การตลาด และด้านไอที อาทิ ซอฟท์แวร์ ระบบปฏิบัติการ และแอพพลิเคชั่น รวมถึงฟินเทค และการท่องเที่ยว

เป็นต้นว่า เจ้าพ่อวงการดิจิตัลอย่างกูเกิ้ล (Google) เปิดสำนักงาน ท้องถิ่น คลาวด์ระดับภูมิภาค และศูนย์แห่งความยอดเยี่ยม ขณะที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เจ้าแห่งซอฟท์แวร์ ก็เปิดคลาวด์ระดับภูมิภาคและศูนย์นวัตกรรมเพื่อให้บริการลูกค้าท้องถิ่น

ไอไลฟ์ดิจิตัล (iLife Digital) จากสหรัฐฯ ลงทุนตั้งโรงงานผลิตส่วนประกอบอุปกรณ์ไอทีที่เขตฟรีโซนกาตาร์ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน 1,500 ตำแหน่ง ส่วนกลุ่มยูบีเอส (UBS Group) แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ก็วางแผนจะเปิดศูนย์ธุรกิจครบวงจรแห่งใหม่ในกรุงโดฮา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริการการเงินดิจิตัลและการพัฒนาเด็กความสามารถพิเศษในท้องถิ่น รวมถึงจะดึงผู้ชำนาญด้านดิจิตัล 200 คนเข้าไปในพื้นที่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

ทำนองเดียวกันก็ขยายผลทางเศรษฐกิจถัดไปยังประเทศอื่นในตะวันออกกลาง ส่งผลให้รูปร่าง FDI ในภูมิภาคต่อโลกมากขึ้นจาก 5% เศษในปี 2019 เป็นกว่า 8% ในปี 2021

ฟุตบอลโลก กีฬาจีน

เมื่อการแข่งขันเริ่ม คิกออฟ

ก็ก่อให้เกิดการขยายตัวของการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แบรนด์แฟรนไชส์โรงแรมชั้นหนึ่งอย่างฮิลตัน (Hilton) มาร์ริออต (Marriott) และเซ็นทารา (Centara) ของไทยที่ได้เข้าไปลงทุนและขยายบริการในกาตาร์ในช่วงหลายปีหลัง ก็คาดว่าจะมีแฟนบอลจองห้องเช่าเต็มตลอดการแข่งขัน

และมาถึงวันนี้ การเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ก็ผ่านไปด้วยดี ได้รับความชื่นชมจากแขกรับเชิญพิเศษ แฟนบอล และสื่อมวลชนทั้งโลก ซึ่งจะช่วยให้ชาวโลกรู้จักกาตาร์มากขึ้น และเสริมสร้างชื่อเสียงผ่านการเป็นเจ้าภาพ “จัดงานใหญ่”

ประเทศในภูมิภาคต่างคาดหวังว่า “พลังละมุน” ในครั้งนี้จะ “{ทรงพลัง” และช่วยเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว หลายประเทศยังต้องการสร้าง “จุดขายใหม่” ในด้านธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว การกีฬา และการรักษาพยาบาลในเวทีระหว่างประเทศเพื่อนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเตรียมสานต่อกระแสดังกล่าวผ่านกิจกรรมมากมาย

อาทิ อาบูดาบี บาห์เรน และซาอุดิอาระเบีย เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรถยนต์สูตร 1 (Formula One) ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟระหว่างประเทศที่อาบูดีบี เทนนิสที่ดูไบ และอี-สปอร์ตในหลายประเทศในภูมิภาค โดยใช้สื่ออัล จาซีรา (Al Jazeera) ของกาตาร์ ที่พัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางสื่อของโลกอาหรับช่วยประโคมข่าวสาร

นักวิเคราะห์ของ PWC ยังประเมินไว้ว่า วงการกีฬาในตะวันออกกลางจะขยายตัวถึง 8.7% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เทียบกับอัตราเฉลี่ยของโลกที่ 3% นอกจากนั้น กาตาร์ยังเตรียมสานต่อกระแสดังกล่าวผ่านการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ในปี 2030 แต่ “การเดิมพันครั้งใหญ่” ดังกล่าวจะเกิดคุ้มค่าการลงทุนและก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจอื่นในระยะยาวหรือไม่ อย่างไร เป็นคำถามที่รอคำตอบ

คราวหลังผมจะเชิญชวนคุยเรื่องการเป็นผู้สนับสนุน “กาตาร์ 2022” ของแบรนด์จีนที่ตามมาด้วย “ควันหลง” …